ตอนเด็กผมคุ้นเคยกับการนอนบนรถทัวร์ รถไฟ บ่อยครั้งที่พ่อจะไปรับทันทีที่โรงเรียนเลิกเย็นวันศุกร์ แล้วเราสองคนจะรีบไปขึ้นรถทัวร์บ้าง รถไฟบ้างไปหาแม่ที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัด และบ่อยครั้งเช่นกันที่ผมจะถูกปลุกแต่เช้ามืดบ่อย ๆ เพื่อไปรับแม่ที่บริษัทรถทัวร์ของแต่ละสาย บางที่ก็สามย่าน แถวโรงหนังอินทรา ราชประสงค์ สมัยนั้นรถทัวร์ยังเข้าจอดตรงที่บริษัทเลย ไม่ได้เข้าที่ขนส่งเหมือนปัจจุบัน พิเศษสุดคือการได้ไปรอแม่ที่หัวลำโพง ผมยืนดูรถไฟวิ่งเข้าออกด้วยความตื่นเต้น และทุกครั้งเวลาขบวนรถของแม่วิ่งเข้าชานชาลา ผมจะมองพนักงานขับรถด้วยความชื่นชม เพราะเห็นเขาทีไร ผมได้เจอแม่ทุกที ตอนนั้นผมฝันว่าโตขึ้นมาผมจะเป็นคนขับรถไฟ


มีรถไฟขบวนหนึ่งที่แล่นเข้ามาในหัวผมระหว่างเรียนวิชาสังคมบ่ายวันหนึ่ง “ทางรถไฟที่ยาวที่สุดในโลกคือ Trans-Siberian Railway” แล้วคุณครูก็ชี้เส้นทางของรถไฟบนแผนที่ให้ดู มันช่างยาวเสียเหลือเกิน จะเป็นยังไงนะถ้าได้นั่งอยู่บนรถไฟขบวนนั้น เกือบ 40 ปี รถไฟขบวน Trans-Siberian ไม่เคยแล่นออกไปจากหัวผมเลย 


มีสองครั้งที่ผมนึกถึงรถไฟ Trans-Siberian ขึ้นมาในอารมณ์ที่เหมือนกัน ครั้งแรกคือที่สถานี St. Pancras Station ในลอนดอนระหว่างที่รอรถไฟข้ามช่องแคบไปปารีส ผมยืนมองรางรถไฟแล้วคิดว่า “ผมสามารถนั่งรถไฟจากที่นี่ไปเชื่อมกับ Trans-Siberian ได้ที่ Moscow นี่นา ครั้งที่สองที่ Frankfurt Hauptbahnhof ระหว่างรอรถไฟไปสนามบิน ผมคิดอย่างเดียวกัน 


หันมองชั้นหนังสือที่บ้าน หรือหนังสือที่ผมเลือกมาขายที่ร้าน ถ้าสำนักพิมพ์ไหนมีหนังสือเกี่ยวกับ Trans-Siberian Railway ผมต้องสั่งมาขายเสมอ ๆ และผมก็จะนั่งอ่านทุกเล่มที่สั่งมา ฝันตามไปแบบลม ๆ แล้ง ๆ ผมฝันถึงรถไฟสายนี้ตั้งแต่อายุเพิ่งเลยสิบขวบมาไม่นาน จนบัดนี้เกินห้าสิบไปแล้ว Trans-Siberian Railway ก็ยังเป็นการเดินทางในความฝัน 


ปี 2019 บอกเพื่อนสนิทว่า เรานั่ง Trans-Siberian ไปดูลิเวอร์พูลที่อังกฤษกันเถอะ ผมบอกเขาว่าสักครั้งในชีวิต ฝันมานานละ อยากไปก่อนตาย แค่เปรยเขาด่าผมกลับมาเล็กน้อยก่อนบอกว่า “เออ ข้าไปด้วย ถ้าตอนนั้นข้าเดินไม่ไหว บอกลูกเอ็งให้เข็นรถให้ด้วยนะโว้ย” ว่าแล้วเขาก็เอาแผนของเราไปประกาศในไลน์กลุ่มเพื่อน ได้ความสนใจเพิ่มอีก 2 คน ส่วนมากบอกว่านานเกินไปบ้าง กลัวภรรยาไม่อนุญาตบ้าง เราหัวเราะแหย่กันไปมา คืนนั้นจบไปด้วยเสียงหัวเราะ


โควิดมาเคาะประตูตั้งแต่ต้นปี 2020 ทุกอย่างหยุดนิ่ง งานการของเราด้วย ร้านหนังสือที่เคยภาคภูมิใจว่าทำกำไรมาตลอดตั้งแต่เปิดมาก็เริ่มต้องดิ้นรนเพื่ออยู่ต่อให้ได้ ภาระมากมายหลั่งไหลเข้ามา  ทางรถไฟ Trans-Siberian ยังเป็นความฝันต่อไป 


สองสามอาทิตย์ที่แล้วข่าวการเสียชีวิตของน้าค่อม ขวัญใจที่ผมมักนอนดูแกทาง Youtube ทุกคืน อย่างน้อยน้าค่อมช่วยให้ผมได้หัวเราะบ้าง อดคิดถึงพรุ่งนี้ไม่ได้ ผมนอนนึกถึงอนาคต สิ่งต่าง ๆ ที่เดิมคือความฝันกลายเป็น Bucket List ในวันนี้ ทางรถไฟ Trans-Siberian ถูกเอากลับมาปัดฝุ่นใหม่ ผมเริ่มต้นอ่าน Trans-Siberian Railway edition 2018 ของ Lonely Planet อีกครั้ง ตั้งใจว่าปี 2022 ผมจะต้องออกเดินทางให้ได้ ก่อนหลับวันนั้นได้ไลน์ไปหาเพื่อนสนิท 


“ข้าว่าเราไปกันเถอะ” เวลาน้อยลงทุกที ไม่ใครก็ใครเดี๋ยวจะตายกันไปก่อน เดี๋ยวนี้ตายกันง่าย ๆ 

เพื่อนสนิทตอบมาว่า “เออ ใช่ ไปดิ เอ็งเริ่มเลย” 

การเดินทางในรายการที่ต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิตของเราใกล้เข้ามาอีกนิด


เมื่อวานผมได้รับแจ้งว่า Kinfolk จะออกหนังสือเล่มใหม่ ชื่อว่า Kinfolk Travel ที่สะดุดตาผมคือคำจำกัดความสั้นกระชับถึงหนังสือเล่มนี้ Slower Ways to See the World เรารู้จัก Kinfolk ในฐานะผู้จุดไฟ Slow Living เมื่อหลายปีก่อน เกือบสิบห้าเดือนชีวิตเราช้ามาก และถึงหยุดนิ่งในบางที การเตรียมตัวเดินทางไปกับทางรถไฟสายที่ยาวที่สุดในโลกของผมอาจหลีกเลี่ยงคำจำกัดความนี้ไปไม่ได้ 


Slower Ways to See the World ผมอดตื่นเต้นแบบข้ามปีกับการเตรียมตัวครั้งนี้ไม่ได้ นี่อาจเป็นการเดินทางครั้งแรกจริง ๆ ของชีวิตก็เป็นได้ และเป็นการรอคอยที่นานมาก แล้วคุณละครับออกเดินทางครั้งแรกเมื่อไหร่ 


The Booksmith Bookshop