ฉันเดินกลับขึ้นไปด้านบน เปิดสวิตช์ไฟในห้องครัวและห้องนั่งเล่น ก่อนจะไปม้วนผ้าม่านสีขาวที่แม่ปักลายดอกกุหลาบสีชมพูอ่อนไว้ตรงชายผ้าที่หน้าต่างกระจกกรอบไม้ที่ผนังด้านหลังโซฟา โชคดีที่เมื่อเช้าก่อนออกไปร้านกาแฟฉันตัดสินใจล้างจานให้เสร็จก่อน เย็นนี้เลยไม่ต้องมาแบ่งเวลาไปล้างอีก เริ่มทำอาหารได้เลย อืม...ว่าแต่วันนี้เราจะทำอะไรกันดี
ตรงชั้นเก็บของที่อยู่เหนือซิงก์ล้างมือขึ้นไปคือชั้นที่ฉันใช้เก็บหนังสือสูตรอาหารหลายเล่มโปรดของตัวเองเอาไว้ ฉันฝึกทำอาหารด้วยตัวเองตั้งแต่ช่วงเรียนมหาลัยที่ออสเตรเลีย ครูสุดที่รักของฉันแน่นอนว่าคือ Julia Child และหนังสือที่เธอเขียน Mastering The Art of French Cooking หนังสือเล่มนี้ “offers something for everyone, from seasoned experts to beginners who love good food and long to reproduce the savory delights of French cuisine.” และหนึ่งในประโยคที่เธอเคยพูดไว้คือ “You don't have to cook fancy or complicated masterpieces - just good food from fresh ingredients.” เป็นประโยคที่สร้างแรงบันดาลใจให้ฉันทำสวนปลูกผักและสมุนไพรเองที่บ้าน
ดังนั้นฉันจะเลือกทำเมนูง่าย ๆ อย่างสลัด วัตถุดิบที่ต้องใช้ก็จะมี leaf lettuce, green beans, ripe red tomatoes, black sun-dried olives, kalamata olives, capers, roasted red pepper, parsley, and potato เครื่องปรุงจะมี salt and freshly ground black pepper ส่วนเนื้อสัตว์ได้แก่ can of tuna in broth and oil, can of flat fillet anchovies และ 4 hard-boiled eggs... Yummy Yummy
—
เมื่ออิ่มอร่อยไปกับมื้อเย็นที่ simply special ที่ตัวเองทำแล้ว มันก็ถึงเวลาที่ฉันต้องหันมาคอมพลีตงานวันนี้ให้ได้ นั่นก็คือ การทำ More Research on The 19th Century Literature
A cup of warm rose tea before settling down on that comfy couch of mine would be really nice.
คลิก คลิก คลิก คลิก
ยุควรรณกรรมสมัยใหม่ของวรรณกรรมอังกฤษนั้นสามารถตามย้อนกลับไปในช่วงแรกเริ่มของสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียขึ้นครองราชย์ (ค.ศ. 1837 - 1901) การกำเนิดขึ้นของวรรณกรรมในยุคโรแมนติกสามารถถูกวิเคราะห์ทั้งกับตัวของยุคสมัยเองและผลงานของนักเขียน นักประพันธ์ทั้งหลาย ตอนนั้นประเทศอังกฤษเพิ่งพ้นจากสงครามที่ยาวนานกับประเทศฝรั่งเศส ทำให้ทิศทางของด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาดำเนินการไปอย่างรวดเร็ว การปฏิวัติอุสาหกรรม หรือ The Industrial Revolution สร้างความเปลี่ยนแปลงให้ประเทศเป็นอย่างมาก มันจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ความเจริญมั่งคั่ง ความมั่นใจของกับประเทศและประชาชนบางกลุ่มในขณะนั้น จะมาพร้อมกับความเหลื่อมล้ำที่ชัดเจนมากขึ้นอีกหลายเท่าในสังคม
ด้านศาสนาและความเชื่อ แนวคิดแบบโรแมนติกนั้นได้ถูกวิทยาศาสตร์และปรัชญาในสาขาต่าง ๆ ท้าทายมากขึ้น การกำเนิดของสัจนิยมหรือ Realism จึงกลายมาเป็นก้าวที่สำคัญมากก้าวหนึ่งในแวดวงงานศิลปะ และส่วนในด้านการเมืองนั้น ประเทศอังกฤษก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ต้องเผชิญกับบททดสอบของการปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย หรือ Democratic Reform และการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ อีกมากมาย
การเริ่มต้นของสมัยสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียสามารถเชื่อมสัมพันธ์กับการเกิดตัวตนที่ชัดเจนมากขึ้นอย่าง Charles Dickens (ค.ศ. 1812 - 1870) และผลงานของเขาที่พูดถึงความไม่ยุติธรรมและความยากลำบากของชีวิตของคนในสังคม ผ่านการสร้างคาแรกเตอร์ของตัวละครที่มีความซับซ้อนและความขบขันปนอยู่ด้วย ตัวอย่างผลงานของเขา เช่น หนังสือนิยายเรื่อง Hard Times ที่พูดถึง English society and satirises the social and economic conditions of the era.”
“It is said that every life has its roses and thorns; there seemed, however, to have been a misadventure or mistake in Stephen’s case, whereby somebody else had become possessed of his roses, and he had become possessed of somebody else’s thorns in addition to his own.”
เรื่อง Great Expectations ที่พูดถึง “social class and ambition, guilt and redemption, and uncertainty and deceit.” และยังมีความรักของตัวละครชื่อ Pip ที่มีต่อ Estella เป็นหนึ่งในธีมหลักอีกด้วย
“The unqualified truth is, that when I loved Estella with the love of a man, I loved her simply because I found her irresistible. Once for all; I knew to my sorrow, often and often, if not always, that I loved her against reason, against promise, against peace, against hope, against happiness, against all discouragement that could be. Once for all; I love her nonetheless because I knew it, and it had no more influence in restraining me, than if I had devoutly believed her to be human perfection.”
และในขณะที่ Charles Dickens กำลังเป็นที่สนใจในแวดวงวรรณกรรม ณ ตอนนั้น ยุคศตวรรษที่ 19 ก็ยังคงมีนักเขียนคนอื่นที่สรรค์สร้างผลงานที่น่าสนใจไว้อีกมาก เช่น Elizabeth Gaskell, The Bronte Sister, Chalotte, Emily, Anne, Mary Ann Evans ในนามปากกาว่า George Eliot ฯลฯ
Elizabeth Gaskell (ค.ศ.1810 - 1865) ที่เขียนงานหลัก ๆ ในธีมของ Unitarianism หรือ ลัทธิเอกภาพนิยมที่เชื่อว่ามีพระเจ้าองค์เดียว และ She usually emphasized the role of women, with complex narratives and realistic female characters. She was influenced by the writings of Jane Austen. She then felt qualified to write a book on one of the greatest authors of all time, smoothing over patches in her life that were too rough for the sophisticated society woman.
ตัวอย่างผลงานของเธอ เช่น นิยายเรื่อง Mary Barton ที่เริ่มต้นเรื่องมาด้วยการพูดถึงความแตกต่างระหว่างสองฐานะ ร่ำรวยและยากจนใน The Victorian working class ก่อนจะมีเนื้อเรื่องของการฆาตกรรมและความตายในกลางและท้ายเรื่อง
“No, its the poor I tell you, and the poor only, as does such things for the poor. Don't think to come over me with th' old tale, that the rich knows nothing of the trials of the poor; I say, if they don't know, they ought to know. We're their slaves as long as we can work; we pile up their fortunes with the sweat of our brows, and yet we are to live as separate as if we were in two worlds..."
หรือนิยายที่เป็นที่รู้จักกันดีของเธออย่างเรื่อง Cranford ที่มี Charles Dickens เป็นบรรณาธิการหนังสือและถูกตีพิมพ์ในนิตยสาร Household Words เรื่อง North and South ที่พูดถึงนวสมัยที่ขัดแย้งกับประเพณีดั้งเดิมในสังคม อำนาจและการต่อต้าน บทบาทของความเป็นบุรุษและสตรี และเรื่อง Wives and Daughters ที่จะแตกต่างจากเรื่องอื่น ๆ อยู่ เพราะหนังสือเรื่องนี้ Elizabeth Gaskell เลือกที่จะเขียนถึง “the joys and sorrows of the people of Hollingford, and the story of a young girl's growth and change.”
Sources
• English Literature from the 19th Century Through Today by J. E. Luebering , and Britannica Educational Publishing Staff
• The Foundations of 19th Century Literature by Mike Trial
• Great Expectation Themes by Course Hero
• Some Social Themes in Wives and Daughters The Victorian Web
• GoodReads Website
A Notice
In the next article, it would explore the work of Emily Brontë, Wuthering Heights. Hope you all would look forward to reading it.
Fictional Short Story By Princess