Where shall we go, our Mother,

Away from those who mean us harm?

My darlings, my beloveds, my dears,

Let us go to the Enchanted Forests

As they did in the ancient stories

And be safe. 

.

หนังสือนวนิยายเรื่อง Victory City เป็นนวนิยายแนวประวัติศาสตร์ การเมือง และแฟนตาซี เขียนขึ้นโดย ซัลมาน รัชตี นักเขียนเชื้อสายอังกฤษและอินเดียผู้มีผลงานโด่งดังมากมายในงานประเภทนิยาย บทความ และสารคดี งานเขียนของเขามักมีเนื้อหาเกี่ยวกับอัตลักษณ์บุคคล ศาสนา การเมืองการปกครอง และความขัดแย้งทางวัฒนธรรม ผลงานที่ทำให้รัชตีเป็นที่รู้จักในระดับสากลและได้รับรางวัลมากมายคือผลงานเรื่อง Midnight’s Children ในปี 1981 

.

ในขณะที่อีกหนึ่งผลงานที่เป็นที่รู้จักกันเช่นเดียวกันคือ The Satanic Verses ซึ่งมีเนื้อหาขัดแย้งกับหลักความเชื่อของศาสนามุสลิมจนทำให้มีผู้ได้รับผลกระทบจากความแค้นเคืองของชาวมุสลิมมากมาย ตัวรัชตีเองได้ถูกทำร้ายหลายต่อหลายครั้งจากการเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้น ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อปี 2022 ได้ทำให้เขาสูญเสียดวงตาไปหนึ่งข้าง และหนังสือเล่มแรกของรัชตีที่ถูกตีพิมพ์ออกมาหลังจากเหตุการณ์เลวร้ายในครั้งนั้นก็คือ Victory City นั่นเอง

.

Victory City เป็นเรื่องราวมหากาพย์ความรุ่งโรจน์และสูญสิ้นของเมืองหลวงทางประวัติศาสตร์ของจักรวรรดิวิชัยนครในทางใต้ของอินเดีย โดยหลังจากการทำสงครามระหว่างสองราชอาณาจักรที่ถูกลืมเลือนในศตวรรษที่สิบสี่ทางอินเดียใต้ เด็กสาวอายุเก้าขวบชื่อว่า ปัมปะ กัมปานา ได้รับพลังศักดิ์สิทธิ์ที่จะสามารถช่วยเปลี่ยนแปลงเรื่องราวประวัติศาสตร์ได้ 

.

หลังจากที่เธอได้แม่ของเธอตายไปต่อหน้าต่อตา ปัมปะที่กำลังจมอยู่กับความเศร้าได้กลายเป็นร่างทรงให้กับเทพีองค์หนึ่ง เทพีองค์นั้นเริ่มกล่าวคำพูดต่าง ๆ ออกมาจากปากของเด็กสาว นางได้มอบพลังอันซับซ้อนและแข็งแกร่งมากเกินกว่าที่ปัมปะจะเข้าใจ และได้บอกเธอว่าเธอจะมีบทบาทสำคัญในจุดเริ่มต้นของความรุ่งโรจน์ของเมืองอันแสนยิ่งใหญ่ที่มีชื่อว่า บิสนากะ หรือก็คือเมืองแห่งชัยชนะ 

.

กว่า 250 ปีต่อมา ชีวิตของปัมปะ กัมปานาได้พัวพันอย่างลึกซึ้งเข้ากับเมืองบิสนากะ ตั้งแต่การเพาะปลูกด้วยเมล็ดพันธุ์เวทมนตร์มากมายไปจนถึงหายนะที่เกิดขึ้นจากเงื้อมมือของเหล่ามนุษย์ผู้หลงระเริงกับอำนาจในมือของตน เพื่อให้บิสนากะเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองและผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองได้มีความเป็นอยู่ที่ดีมากยิ่งขึ้น  ปัมปะ กัมปานาพยายามทำงานที่เทพีมอบให้เธอเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการให้โอกาส ทางเลือก และสิทธิ์แก่ผู้หญิงอย่างเท่าเทียมในโลกที่ชายเป็นใหญ่ 

.

แต่กระนั้นเรื่องราวทั้งหลายก็ยังมีวิธีที่จะหลุดพ้นออกจากความตั้งใจของผู้สร้าง และบิสนากะเองก็เช่นกัน หลายปีผ่านไป เหล่าผู้ปกครองได้เข้ามาและจากไป การต่อสู้มีทั้งชนะและพ่ายแพ้ และความสัมพันธ์ที่แปรเปลี่ยน บิสนากะกลายเป็นเมืองที่มีความซับซ้อนมากขึ้นโดยที่มีปัมปะ กัมปานาเป็นศูนย์กลางของความยุ่งยากซับซ้อนเหล่านั้น

.

Victory City เป็นนวนิยายที่ผสมผสานระหว่างความเป็นจริงและเรื่องมหัศจรรย์อย่างเวทมนตร์เข้าด้วยกัน ในเนื้อเรื่องมีการพูดถึงเรื่องราวต่างๆ ในหลากหลายด้าน ทั้งยังสอดแทรกแง่มุมและข้อคิดต่างๆ ให้ผู้อ่านได้กลับไปคิดต่อ ไม่ว่าจะเป็นการเมืองการปกครองของจักรวรรดิอินเดียในอดีต การแบ่งแยกชนชั้นวรรณะ ความเหลื่อมล้ำทางสังคม ระบบสังคมที่เอื้อให้เพศชายมีสิทธิมีอำนาจเหนือเพศอื่นหรือระบบปิตาธิปไตย ศาสนา วัฒนธรรม และความเชื่อ ที่ยังคงมีอิทธิพลต่อสังคมในยุคปัจจุบัน 

.

เนื้อเรื่องบรรยายโดยนักเล่าเรื่องนิรนามผู้แปลบทกวีของปัมปะ กัมปานาให้กับผู้อ่าน ภายในหนังสือเต็มไปด้วยประวัติของเมืองบิสกานะ เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับปัมปะ กัมปานาและเมืองบิสนากะที่หมุนเวียนไม่รู้จบในระยะเวลากว่าสองร้อยปี รวมถึงความคิดเห็นของนักเล่าเรื่องนิรนามเองต่อเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้น

.

รัชตีเขียนนวนิยายเรื่องนี้ได้อย่างน่าสนใจ มีการใช้คำภาษาอินเดียลักษณะต่างๆเพื่อให้ผู้อ่านรู้สึกคุ้นชินกับวัฒนธรรมอินเดียมากขึ้นระหว่างที่กำลังอ่าน เช่น Hukka Bukka Pukka Chukka Shakti Adi Bhagwat Erapalli Gundappa  และ Gairi การใช้นักเล่าเรื่องนิรนามผู้อาศัยอยู่ในยุคสมัยที่ใหม่กว่าช่วงเวลาที่เกิดขึ้นในเนื้อเรื่องเป็น

ผู้บรรยายเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นก็น่าสนใจไม่น้อยไปกว่ากัน เนื่องจากผู้บรรยายยังใส่ความคิดเห็นส่วนตัวของตนเองในระหว่างที่กำลังบรรยายด้วย 

.

นอกเหนือจากการเล่าเรื่องประวัติเรื่องราวทั่วไปและความคิดเห็นของนักเล่าเรื่องนิรนามแล้ว เรายังได้สัมผัสกับกลอนภาษาอังกฤษที่ทำให้รู้สึกเสมือนว่าแปลมาจากภาษาอินเดียในอดีตจริงๆ เป็นกลอนที่มาจากบทกวีที่มีอายุกว่าสองร้อยปีของตัวปัมปะ กัมปานาเอง ซึ่งมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากภายในกลอนเองยังสอดแทรกความรู้สึกของผู้แต่งต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นทำให้ผู้อ่านได้ทราบและรับรู้ถึงความรู้สึกนึกคิดของตัวปัมปะ กัมปานาเองมากขึ้น กลอนมีความสละสลวยและลึกซึ้ง ถือว่าเป็นหนึ่งในจุดแข็งของหนังสือเล่มนี้ก็ว่าได้ 

.

วิธีการเล่าเรื่องอันหลากหลาย การสะท้อนแง่มุมและแนวคิดจากอดีตจนถึงปัจจุบัน การให้ความรู้ประวัติศาสตร์ของอินเดียในอดีตในขณะที่ก็ยังให้ความเพลิดเพลินใจต่อเรื่องราวมหัศจรรย์ที่ถูกแต่งเติมขึ้น ถือว่าเป็นการเรียบเรียงและเขียนได้ดีมาก

.

ดังนั้น Victory City จึงเป็นอีกหนึ่งในงานเขียนของซัลมาน รัชตี ที่ควรค่าแก่การอ่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่รักการท่องเที่ยวเข้าไปในโลกประวัติศาสตร์ใหม่ๆ ผู้อ่านบางท่านอาจจะยังไม่คุ้นเคยกับประวัติศาสตร์ ภาษา ความเชื่อ และวัฒนธรรมของประเทศอินเดียทั้งในอดีตและปัจจุบันนัก แต่นั่นก็เป็นเรื่องท้าทายดีไม่ใช่หรือ กับการเรียนรู้เรื่องราวใหม่ๆ ในโลกใบใหม่ที่เราไม่เคยสัมผัสมาก่อน มาเข้าสู่โลกประวัติศาสตร์ที่ผสมผสานเข้ากับเวทมนตร์ของรัชตีไปด้วยกัน

.

Words are the only victors.

What they did, or thought, or felt, no longer exists.

Only these words describing those things remain.



อ้างอิงจาก

https://sevencircumstances.com/2023/06/14/a-richly-detailed-feminism-themed-fantasy-victory-city-by-salman-rushdie/

https://www.thecrimson.com/article/2023/2/21/victory-city-review-Salman-Rushdie-book/

https://theconversation.com/salman-rushdies-victory-city-review-a-storyteller-at-the-height-of-his-powers-199619#:~:text=Victory%20City%20is%20an%20epic,pronunciation%20by%20a%20Portuguese%20traveller.

https://www.npr.org/2023/02/07/1155111717/salman-rushdie-victory-city